วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) อันตราย!! จริงหรือไม่

ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) อันตราย!! จริงหรือไม่
น.พ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล
Board of Dermatology

ปัจจุบันการบริโภคความงามในคนไทยมีการเดินตามฝรั่งมากขึ้นไปทุกที ยอดการใช้สารโปรตีนชนิดนี้สูงมากขึ้นทุกปี จนมียอดสถิติแซงหน้าการเสริมความงามทุกประเภท เนื่องจากมีความปลอดภัยมานานกว่า20ปี(US FDA APPROVE SINCE1989) ใช้ง่าย เกิดประโยชน์ชัดเจน และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เชื่อถือได้กว่า 2,000ฉบับ แต่ในความยอดนิยมนั้นก็แฝงไว้ด้วยความเสี่ยงมากเช่นกัน เพราะกระแสแฟชั่นแบบเกาหลีมาแรงจนเดี๋ยวนี้ใครๆก็เรียกร้องหาเจ้าสารพิษตัวนี้มาใส่ตัว แบบจัดเต็ม หรือจัดหนัก!!หากฉีดในปริมาณมากเกินไป หรือมีการฉีดผิดตำแหน่งเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้คิ้ว หรือหนังตาตก บางคนมุมปากตก ยิ้มแล้วหน้าเบี้ยว เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต(เฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ)เพราะฉะนั้นต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำการรักษา หมอขอยกตัวอย่างคำถามที่พบบ่อยๆดังนี้

Q……Botox อันตรายหรือไม่?
A..... Botox เป็นสารพิษอันตรายจริงแต่ปริมาณที่ใช้ทางการแพทย์นั้นมีปริมาณเล็กน้อย จึงดีมีประโยชน์ แต่ต้องฉีดในตำแหน่งและปริมาณที่เหมาะสม หากฉีดเกิน 30 ขวดต่อครั้งอาจถึงแก่ชีวิตได้(้Human 70kg.lethal dose 50%=3000ยูนิต)

Q…….BOTOX คืออะไร?
A.....เป็นโปรตีนที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซีน A ซึ่งสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งและเมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รอยย่นบริเวณหน้าผาก(1) รอยตีนการอบดวงตา(2) รอยย่นระหว่างหัวคิ้ว (3) เป็น3ข้อบ่งชี้ที่อย.อเมริกา(US FDA)และอย.ประเทศไทย (Thai FDA)ให้ใช้ได้เป็นปกติมาเกือบ 10ปีแล้ว

Q……มีข้อห้ามใช้ไหม?
A.......มีข้อห้ามใช้4ข้อดังนี้
1.ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และระหว่างให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่ามีอันตรายต่อเด็กในครรภ์มารดาจริงหรือไม่ จึงสมควรให้งดไว้ก่อน
2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ Albumin
3. ผู้ที่มีประวัติแพ้ สารBotulinum Toxin
4.ผู้ป่วยโรคระบบกล้ามเนื้อ(myastinia grevis)
Q…….ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้จริงไหม นานเท่าไร
A........ลดริ้วรอยได้นานประมาณ6-12 เดือน

Q…….ฉีด Botox แก้ปัญหาหน้าอ้วน หน้าบวมได้ไหม?
A......ไม่ได้ผลดี หมอเกาหลีบางคนชอบฉีดสเตียรอยด์เพื่อลดหน้าบวมและมีหมอไทยหลายคนชอบใช้วิธีนี้ แต่มีผลเสียมากกว่า

Q…….ฉีดบ่อยๆเป็นอันตรายไหม?
A......Botoxเป็นโปรตีนที่สลายได้เอง ฉีดได้บ่อย ไม่สะสม(แต่ต้องไม่overdose)

Q…….ฉีด Botox แก้ปัญหาหน้าเหลี่ยม รูปหน้ากรามใหญ่ได้จริงไหม?
A.......จริงครับ การฉีดลดกล้ามเนื้อตรงส่วนกรามให้เล็กลงส่งผลให้หน้าดูเรียวขึ้นสามารถทำได้ แต่ต้องตรวจดูรูปหน้าคนไข้ก่อนรักษา บางคนฉีดแล้วไม่ได้ผล นอกจากนี้ botox ยังมีการประยุกต์กับการเสริมความงามอีกหลายประเภทเช่น ทำให้คิ้วโก่งเข้ารูป ปีกจมูกเล็กลง ลดรอยบุ๋มที่คาง แก้ไขให้มุมปากที่ตกยกขึ้น ลดเส้นข้างปาก ลดคิ้วโก่ง Big Eyes ตาโตขึ้น รอยย่นข้างจมูก แต่ข้อบ่งชี้ที่อย.อเมริกาและอย.ประเทศไทย (US FDA)ให้ใช้ได้ มีเพียง 3ข้อที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น

Q…….ฉีดแล้วทำใบหน้าที่ “ดูคล้ายหน้ากาก”แลดูไม่มีอารมณ์จริงหรือไม่
A .....หมอได้ยินหลายคนบ่นว่า ฉีดกับหมอชื่อดังแล้วรู้สึกแข็ง หน้าดูคล้ายซอมบี้ผีดิบ ความจริงการฉีดbotox ก็เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง(The art of Beauty by botulinum toxin) การได้รับสารbotoxที่ดี ต้องมีปริมาณยา(1) สูตรผสมที่เจือจางพอดี(2)และตำแหน่ง(3)ที่เหมาะสม หลังรักษาแล้วต้องเป็นธรรมชาติ ควรมีริ้วรอยเล็กๆ เวลาโกรธ หรือดีใจ คนรอบข้างต้องรู้ ถ้าจะให้perfectต้องประมาณว่า สวยแบบคนอื่นไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรมา เพื่อนๆอาจสงสัยว่า เอะ? ทำไมหน้าเรียวได้รูป กระชับ แบบมีริ้วรอยเล็กๆด้วย ถ้าทำได้อย่างนี้ซิครับ จึงนับเป็นสุดยอดแห่งศิลปะความงาม!!!

สนใจติดต่อ โทร.089-783-9197, 026644360 หรือ ที่ รพ.แม่ฟ้าหลวง (คุณน้อย) 38/11-13 อาคารอโศกเพลส ถนนอโศก สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

**เรื่องเด็ด...สะเก็ดเงิน ฟังฟรีที่...รพ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กทม.

ฟรี ****เกร็ดรู้เรืองลับๆ เกี่ยวกับ....สะเก็ดเงิน** .ขอเชิญผู้สนใจ เข้าร่วมฟังบรรยาย โครงการการให้ความรู้สะเก็ดเงิน จาก ม.แม่ฟ้าหลวง สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟสุขภาพ และ แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ ในวันพุธ ที่ 21 มกราคม 2557 เวลา 08.30 - 12.00 น. ฟังฟรี.. 
ณ ห้องประชุม รพ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ Inbox หรือ สำรองที่ ได้ 085 336 2009 หรือ 02 664 4362 รับจำนวนจำกัด

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

***แจกยารักษาสะเก็ดเงินฟรี..โดยท่านผู้ใหญ่ที่ใจดี ฝากผ่านมาทาง นพ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล


 เนื่องในเดือนแห่งมหามงคล(ธค.)นี้  มีท่านผู้ใหญ่ใจดี มอบ เงิน ค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วย

มาให้ 10000 บาท เพื่อนแจกจ่ายยา ฟรี 

ให้แก่ ทุกท่านที่อยู่ไกล หรือขัดสนลำบาก 

ตามหลักเงินจำนวนมากโข ขนาดนี้ 

สามารถจ่ายยา ให้ ผู้ป่วยได้ราว 40 ถึง 50 คน

  แต่ ท่านเจ้าของบุญเงินนี้ ย้ำ !! ให้แจกยา

 เพื่อ รักษาให้ต่อเนื่อง หายขาดได้ยิ่งดี

 (. ดังที่ท่านผู้ใหญ่คนนี้ บอกว่า "อยากให้ผู้อื่น 

ได้  ประสบ เหมือนที่ตนเอง พบว่า...

ดีวันดีคืน เห็นคนอื่นลำบากแล้วสงสาร .." )

 ดังนั้นเบื้องต้น จึง  จำกัดจำนวน คนที่รักษาเพียง

 3 ท่านแรก ก่อน 

... ขอเชิญสมัคร ลงชื่อกันเข้ามานะครับ 

สำหรับท่านที่สนใจรับยาฟรี 

ถ้าเข้าเกณฑ์การคัดเลือก เราจะส่งตัวยา

 พร้อมวิธีการรักษาแบบแนวใหม่ให้ท่าน

....ถึงบ้าน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

  *** เบื้องต้น ให้แจ้งความประสงค์ขอเข้าโครงการ เล่าประวัติความเป็นมาดังนี้...
1.ชื่อเล่น หรือนามสมมติ อายุ เพศ จังหวัดที่อยู่ 
2.เป็นมานานเท่าไร รักษามาอย่างไรบ้าง Review จากอดีตถึงปัจจุบัน โดยละเอียด
 3.การรักษาที่ได้ผลดี และที่คุณวางแผนต่อไปในอนาคต 
4.รู้สึกอย่างไรต่อโครงการนี้ เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 
5.มีคำแนะนำใดๆเพิ่มเติม  
หมดเขต**สมัครกันเข้ามาภายใน เดือนแห่งมหามงคล ธค.นี้ หรือมีคนที่เหมาะสมตามเกณฑ์ การตัดสินถือเป็นที่สิ้นสุดโดยท่านเจ้าของโครงการบุญ****ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ***


กรุณาตอบให้ตรงตามคำถามนะครับ....จะส่งยาไปให้ถึงบ้าน ตอนนี้สามารถจัดส่งให้คนไข้ได้เพิ่มเป็น 5 คน(มีท่านผู้ใจบุญบริจาคมาเพิ่มเติมอีกหลายท่าน)

รีบๆสมัครกันเข้ามานะ

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ความรู้สึกของ นศพ.ที่มีขึ้นหลังจากการออกตรวจ OPD กับ อ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล



ต่อไปนี้เป็นความรู้สึกของ นศพ.ที่มีขึ้นหลังจากการออก OPD กับ อ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล

                "....จากการออกตรวจคนไข้กับอาจารย์จรัสศักดิ์ ทำให้ได้เจอเคส psoriasis หลากหลายเคสมาก ซึ่งแต่ละเคสมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ตัวโรค การรักษา และด้านจิตใจของผู้ป่วย ซึ่งปกติแล้วโดยส่วนตัวข้าพเจ้า ไม่เคยเห็นเคส psoriasis ที่มีระยะโรคสงบได้ดีขนาดนี้ อย่างน้อยก็ยังพบผื่นรอยโรคอยู่บ้าง แต่ในการออก OPD ครั้งนี้ ได้เห็นหลายเคสที่มีระยะสงบของโรคแบบที่ไม่ค่อยเห็นผื่นแล้ว ซึ่งตัวผู้ป่วยเอง ก็มีความสุขมาก ซึ่งปกติส่วนใหญ่จะเจอผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินที่ดูซึมเศร้า ดูเป็นกังวล แต่ผู้ป่วยที่นี่ ดูมีความสุข ไม่ค่อยเป็นกังวล ซึ่งเป็นผลจากการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่ได้รักษาแค่ที่ตัวโรค แต่เป็นการรักษาโดยให้กำลัง ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยร่วมด้วย ซึ่งเป็นคำแนะนำในการดูแลตัวเองในด้านอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้น อีกทั้งที่นี่ยังมีการรวมกลุ่มไลน์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ทำให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสปรึกษาเกี่ยวกับตัวโรคซึ่งกันและกัน มีโอกาสได้ช่วยให้กำลังใจ เสริมสร้างกำลังใจให้แก่กัน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีมากๆ

                การออกOPDในครั้งนี้ ข้าพเจ้ามีความประทับใจเป็นอย่างมาก ทั้งการรักษาผู้ป่วย การดูแลรักษาด้านจิตใจ การร่วมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นการรักษาแบบเป็นองค์รวม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและมีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กับตัวโรคต่อไปอย่างมีความสุข"......   จากใจ นศพ.วรรณวรางค์  คล่องดี
 ความรู้ต่อไปนี้ เป็นการรวบรวม จากน้องนศพ. แต่การรักษาแบบใหม่ ไม่ใช่นะ เหมือนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว...ลองอ่านดูนะ
Psoriasis
 เป็นโรคทางผิวหนังที่พบบ่อยมาก พบประมาณร้อยละ 1-3 ของประชากรโลก พบมากในคนผิวขาว 
สาเหตุและพยาธิกำเนิด
-         systemic, inflammatory, autoimmune T-cell mediated disease
-         พันธุกรรมมีผลในการเกิดโรค
-         ตัวกระตุ้นในการเกิดผื่นที่สำคัญคือ physical trauma ซึ่งทำให้เกิดรอยโรคขึ้นใหม่ “Koebner phenomenon” , การติดเชื้อ เช่น streptococcus, HIV ยา เช่น กลุ่ม beta- blocker, lithium,ACEI และความเครียด เป็นต้น
ลักษณะทางคลินิก มีหลายแบบ ได้แก่
  1. Plaque-type psoriasis (psoriasis vulgaris) พบบ่อยที่สุด ผื่นมีลักษณะหนา ขอบเขตชัด สีแดงสด มีขุยสีขาวขุ่นหรือสีเงิน เมื่อใช้เล็บขูดสีขาวจะหลุด ถ้าขูดแรง จะมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง (Auspitz’s sign) พบบ่อยบริเวณข้อศอก เข่า หนังศีรษะ หลังหู ท้ายทอย สะดือ มือ เท้า
  2. Guttate psoriasis (eruptive psoriasis) พบบ่อยในเด็ก อาจพบหลังติดเชื้อ Streptococcus ผื่นจะมีขนาดเล็ก กะจายทั่วตัว
  3. Pustular psoriasis เป็น sterile pustule อยู่บนผื่นแดงของโรคสะเก็ดเงิน
  4. Erythrodermic psoriasis เป็นผื่นแดงกระจายทั่วตัว มีขุยไม่มากเหมือน plaque type
  5. Flexural psoriasis (inverse psoriasis) รอยโรคจะอยู่บริเวณศอก ข้อพับต่างๆ
รอยโรคที่เล็บ อาจพบถึงร้อยละ 50 ของผู้ป่วย มีลักษณะดังนี้
  1. pitting : หลุมเล็กๆบน nail plate พบบ่อยสุด
  2. oil spot : เป็นวงสีเหลืองอยู่ใต้เล็บ
  3. subungual hyperkeratosis : ผิวหนังใต้เล็บหนา ขรุขระ มีสีผิดปกติ
  4. onycholysis : ตัวเล็บแยกจากผิวหนัง
  5. onychodystrophy: แผ่นเล็บเสียมาก ขรุขระ หงิกงอ
และนอกจากรอยโรคที่ผิวหนังและเล็บแล้ว อาจมีข้ออักเสบร่วมด้วย (psoriasis arthritis) อาจเป็นได้ทั้งข้อเล็กและข้อใหญ่ก็ได้
การวินิจฉัย
                จากการตรวจร่างกาย ถ้าไม่น่ใจอาจตรวจทางจุลพยาธิวิทยา ซึ่งจะพบ parakeratosis ในชั้น stratum corneum ร่วมกับ neutrophil infiltrate


การวินิจฉัยแยกโรค
                Pityriasis rosea
                Seborrheic dermatitis
Pityriasis rubra pilaris
LE
การรักษา
   หลักการ
  1. พิจารณาว่าเป็นมากหรือน้อย ถ้า <10% BSA ให้ใช้ยาทา แต่ถ้า >20%BSA ให้ยับประทาน,ยาฉีด, phototherapy
  2. เลือกยาให้เหมาะสมกับบริเวณที่มีรอยโรค
  3. วางแผนการรักษาเป็นช่วง
  4. คำนึงถึงผลข้างเคียงในระยะยาว
ยารักษา psoriasis ที่สำคัญคือ
                ยาทา corticosteroid, tar preparation , anthralin, vit D, calcineurin inhibitors, salicylic acid, retinoid
                ยารับประทาน  metrotrexate , infliximab, adalimumab, ustekinumab
การฉายรังสีและเลเซอร์
                UVB, PUVA, Laser
Prognosis
                เป็นโรคที่ไม่หายขาด มีผื่นขึ้นๆยุบๆ   สรุปจาก นศพ.วรรณวรางค์  คล่องดี