วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

New Prime for face and skin lifting


1 side treatment

         เครื่องยกกระชับผิว หลุมสิวลบเลือน???
                    นวัตกรรมการบำบัดขจัดหลุมสิว (1)  รูขุมขนใหญ่ (2)  นังดเครื่องต้องการ เพราะความคาดหวังของคุณหมอเกาหลีผู้นี้  ต้องการแบบ  ผิวหมองคล้ำ(3)  และหนังหย่อนยานไม่กระชับ(4) กำลังก้าวข้ามมาอีกขั้น  หากอยากได้ข้อมูลแบบใกล้ชิด ติดตามมาปูเสื่อรอฟังได้เลยครับ(ไม่สงวนลิขสิทธิ์)
วิวัฒนาการเรื่อง FACE LIFTING  เริ่มมาประมาณ 10-20ปีแล้ว ยุคต้นๆจะนิยมผ่าตัดยกหน้าทั้งกระบิเลย  แล้วซ่อนแผลเป็นไว้ในแนวเส้นผม หลังหู และ ใต้คาง แต่เนื่องจากมีผลข้างเคียงมาก อาจได้รับยาฉีดแก้ปวดอย่างแรงเพราะความเจ็บจากแผลผ่าตัด ต้องพักรักษาตัวหลังผ่าตัดในโรงพยาบาล   เพื่อรับยาปฏิชีวนะนานอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ กว่าจะเข้าสังคมได้ ก็ต้องใช้เวลาขั้นต่ำอีก 1-2 เดือน เพราะหน้าบวมอักเสบมาก  ทำให้จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก
เมื่อ 4-5 ปีก่อน เครื่องมือคลื่นวิทยุ (radiofrequency) จุดกระแสการยกกระชับผิวหน้าได้ดี แต่ติดตรงที่ราคาค่าบริการแพงประมาณ 1 แสนบาทต่อ 1 ครั้ง จึงเกิดการตีกลับด้วย การแบ่งการใช้หัว tip (ซึ่งมีราคาแพงมาก)  tip 1หัว หมอบางคนให้ใช้ในลูกค้าหลายๆคน ทำให้ผลการรักษาไม่เป็นไปตามคาดหวัง ประกอบกับความเจ็บในขณะรับการบริการ ลูกค้าจึงได้รับพลังงานต่ำๆ เพื่อจะทนความเจ็บได้ดี ผลของการยกกระชับจึงลดลงตามส่วนนั่นเอง
ต่อมา 3-4 ปีก่อน fractional 1550nm laser  เป็นเครื่องมือทีถือว่า เป็นรุ่นยุคบุกเบิก ตลาดความงามด้านหลุมสิว  จนเกิดกระแสนิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นและประชาชนทั่วไป ทำให้มีเครื่องมือประเภทเดียวกัน ออกมาในสัญชาติต่างๆอีกมากมายเช่น เกาหลี ไทย หรืออิตาลี  ฯลฯ การรักษาหลุมสิว ริ้วร้อย ได้ผลจนน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องการยกกระชับ และ รอยด่างดำ  บางครั้งบางคนหลังทำแล้วหน้าดำมากกว่าเดิม
ต่อมาอีก 1ปีกว่าๆ focused ultrasound ก็ทำให้วงการผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ต้องตื่นตะลึงกับการยกกระชับผิว แบบลึกๆ ภายใต้ผิวชั้นลึก 3 - 4.5 มิลลิเมตร สามารถหดตัวได้ในทันทีที่เครื่องถูกปล่อยพลังงานเสียงลงไป และเราสามารถดูภาพถ่ายทอดสดชั้นผิวหนังของเราเอง ผ่านจอมอนิเตอร์ เห็นชั้นผิวต่างๆแบบ real time
 แต่อย่างไรก็มีด้านด้อยด้วย กล่าวคือ คลื่นเสียง (ultrasound) รุ่นนี้ ราคาสูง หัว tip (ราคาเกือบ 2 แสน) ก็สิ้นเปลืองมากเช่นกัน  หลายสถาบันจึงประหยัดหัว tip ด้วยการนำมาหารเฉลี่ย ให้ใช้ได้หลายๆ คน หลายๆครั้ง เช่นสมมติว่า หัว tip 1 หัว ใช้ได้ 3 คนก็ต้องทิ้งแล้ว บางสถาบันที่เน้นธุรกิจก็นำมาใช้ให้ได้ถึง 50คน ผลลัพท์ที่ได้จึงไม่เป็นที่ประทับใจ โดยเฉพาะในหลายๆคนที่เคยทำมาแล้ว มาบ่นให้ฟังว่าเสียดายเงิน แทบไม่เห็นผลดีอะไรเลย
จนกระทั่งปีนี้ fractional Qswitched nd yag พัฒนาออกมารุ่นแรก โดยการคิดค้นของคนเกาหลี สามารถช่วยเรื่องรอยด่างดำได้ดี เพราะค่าพลังงานควบคุมได้คงที่ ไม่แกว่งตัว หลังรักษาไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด ผลเป็นที่น่าพอใจมาก แต่ไม่ช่วยเรื่องหลุมสิว รูขุมขนใหญ่  และผิวหย่อนยานไม่กระชับ ก็ไม่ได้ผลเช่นเดียวกัน
                       คนเกาหลีนับเป็นชนชาติที่น่าเอาแบบอย่าง เค้าไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาจึงได้พัฒนา โปรแกรมบำบัดผิวรุ่นใหม่ออกมาอีกหลายสิบรุ่น จนกระทั่ง ล่าสุดได้เครื่องมือที่หมอหลายคนได้ลองใช้แล้วกับตนเอง  ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า..... ดีกว่าเดิมจนน่าแปลกใจ (ว่าทำได้ยังไง) ...... ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจน ก็อาจเทียบกับความก้าวหน้าของ Samsung ที่เป็นบริษัทชั้นนำอันดับต้นของโลกในขณะนี้ิวรูขุมขนใหญ่ ผิวหมอิวหมองคล้ำผลเป็นที่น่าพอใจมาก แต่ไม่ช่วยเรื่องจทย์เรื่องการยกกระชับ และ รอยด่างดำ
  ย้อนกลับมาที่เทคโนโลยีนี้ สามารถบำบัดขจัดหลุมสิว รูขุมขนใหญ่ ผิวหมองคล้ำ และหนังหย่อนยานไม่กระชับ  ได้ชัดเจน โดยรู้สึกได้หลังทำเพียง 1 ครั้ง ผมขอเรียกนวัตกรรมนี้ว่า Perfect Prime บางคนก็เรียกว่า  scar + erase แต่ผมเดาความหมายน่าจะไม่ตรงกับต้นแบบของคุณหมอที่คิดเครื่องต้องการ เพราะความคาดหวังของคุณหมอเกาหลีผู้นี้  ต้องการแบบ 4 in 1 ไม่ใช่หวังเพียงรักษาแผลเป็นเท่านั้น มาติดตามดูกันต่อไปนะครับ ว่าหนังม้วนนี้จะจบอย่างไร เพราะเจ้า Perfect Prime (THAI FDA approved) เพิ่งเข้ามาเมืองไทยได้เพียง 1 เดือนเศษเท่านั้น แต่กระแสตอบรับ ไม่เบาเลยทีเดียว
อ.น.พ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล
โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อโศก..\

สนใจติดต่อ โทร.089-783-9197 หรือ ที่ รพ.แม่ฟ้าหลวง (คุณน้อย) 38/11-13 อาคารอโศกเพลส ถนนอโศก สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม...

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

The art of beauty by botulinum toxin A

ฉีดโบท็อกซ์ (Botox)คล้ายXerox หน้ากากจริงหรือไม่
น.พ.จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล
Board of Dermatology
 
ปัจจุบันการบริโภคความงามในคนไทยมีการเดินตามฝรั่งมากขึ้นไปทุกที ยอดการใช้สารโปรตีนชนิดนี้สูงมากขึ้นทุกปี จนมียอดสถิติแซงหน้าการเสริมความงามทุกประเภท เนื่องจากมีความปลอดภัยมานานกว่า20ปี(US FDA APPROVE SINCE1989) ใช้ง่าย เกิดประโยชน์ชัดเจน และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เชื่อถือได้กว่า 2,000ฉบับ แต่ในความยอดนิยมนั้นก็แฝงไว้ด้วยความเสี่ยงมากเช่นกัน เพราะกระแสแฟชั่นแบบเกาหลีมาแรงจนเดี๋ยวนี้ใครๆก็เรียกร้องหาเจ้าสารพิษตัวนี้มาใส่ตัว แบบจัดเต็ม หรือจัดหนัก!!หากฉีดในปริมาณมากเกินไป หรือมีการฉีดผิดตำแหน่งเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้คิ้ว หรือหนังตาตก บางคนมุมปากตก ยิ้มแล้วหน้าเบี้ยว เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต(เฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ)เพราะฉะนั้นต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำการรักษา หมอขอยกตัวอย่างคำถามที่พบบ่อยๆดังนี้

Q……Botox  อันตรายหรือไม่?
A..... Botox  เป็นสารพิษอันตรายจริงแต่ปริมาณที่ใช้ทางการแพทย์นั้นมีปริมาณเล็กน้อย จึงดีมีประโยชน์ แต่ต้องฉีดในตำแหน่งและปริมาณที่เหมาะสม หากฉีดเกิน 30 ขวดต่อครั้งอาจถึงแก่ชีวิตได้(้Human 70kg.lethal dose 50%=3000ยูนิต)

Q…….BOTOX   คืออะไร?
A.....เป็นโปรตีนที่ชื่อว่า  โบทูลินั่ม  ท็อกซีน  A   ซึ่งสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งและเมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว  ส่งผลให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  รอยย่นบริเวณหน้าผาก(1)  รอยตีนการอบดวงตา(2)  รอยย่นระหว่างหัวคิ้ว (3) เป็น3ข้อบ่งชี้ที่อย.อเมริกา(US FDA)และอย.ประเทศไทย (Thai FDA)ให้ใช้ได้เป็นปกติมาเกือบ 10ปีแล้ว

Q……มีข้อห้ามใช้ไหม?
A.......มีข้อห้ามใช้4ข้อดังนี้
1.ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และระหว่างให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่ามีอันตรายต่อเด็กในครรภ์มารดาจริงหรือไม่ จึงสมควรให้งดไว้ก่อน
2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ Albumin
3. ผู้ที่มีประวัติแพ้ สารBotulinum Toxin
4.ผู้ป่วยโรคระบบกล้ามเนื้อ(myastinia grevis)
Q…….ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้จริงไหม นานเท่าไร
A........ลดริ้วรอยได้นานประมาณ6-12 เดือน 

Q…….ฉีด Botox แก้ปัญหาหน้าอ้วน หน้าบวมได้ไหม?
A......ไม่ได้ผลดี หมอเกาหลีบางคนชอบฉีดสเตียรอยด์เพื่อลดหน้าบวมและมีหมอไทยหลายคนชอบใช้วิธีนี้ แต่มีผลเสียมากกว่า

Q…….ฉีดบ่อยๆเป็นอันตรายไหม?
A......Botoxเป็นโปรตีนที่สลายได้เอง ฉีดได้บ่อย ไม่สะสม(แต่ต้องไม่overdose)

Q…….ฉีด Botox แก้ปัญหาหน้าเหลี่ยม รูปหน้ากรามใหญ่ได้จริงไหม?
A.......จริงครับ การฉีดลดกล้ามเนื้อตรงส่วนกรามให้เล็กลงส่งผลให้หน้าดูเรียวขึ้นสามารถทำได้ แต่ต้องตรวจดูรูปหน้าคนไข้ก่อนรักษา บางคนฉีดแล้วไม่ได้ผล นอกจากนี้ botox ยังมีการประยุกต์กับการเสริมความงามอีกหลายประเภทเช่น ทำให้คิ้วโก่งเข้ารูป ปีกจมูกเล็กลง ลดรอยบุ๋มที่คาง แก้ไขให้มุมปากที่ตกยกขึ้น ลดเส้นข้างปาก ลดคิ้วโก่ง  Big Eyes ตาโตขึ้น รอยย่นข้างจมูก แต่ข้อบ่งชี้ที่อย.อเมริกาและอย.ประเทศไทย (US FDA)ให้ใช้ได้ มีเพียง 3ข้อที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น

Q…….ฉีดแล้วทำใบหน้าที่ ดูคล้ายหน้ากากแลดูไม่มีอารมณ์จริงหรือไม่
A .....หมอได้ยินหลายคนบ่นว่า ฉีดกับหมอชื่อดังแล้วรู้สึกแข็ง หน้าดูคล้ายซอมบี้ผีดิบ ความจริงการฉีดbotox ก็เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง(The art of Beauty by botulinum toxin) การได้รับสารbotoxที่ดี ต้องมีปริมาณยา(1) สูตรผสมที่เจือจางพอดี(2)และตำแหน่ง(3)ที่เหมาะสม หลังรักษาแล้วต้องเป็นธรรมชาติ ควรมีริ้วรอยเล็กๆ เวลาโกรธ หรือดีใจ คนรอบข้างต้องรู้ ถ้าจะให้perfectต้องประมาณว่า สวยแบบคนอื่นไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรมา เพื่อนๆอาจสงสัยว่า เอะ? ทำไมหน้าเรียวได้รูป กระชับ แบบมีริ้วรอยเล็กๆด้วย ถ้าทำได้อย่างนี้ซิครับ จึงนับเป็นสุดยอดแห่งศิลปะความงาม!!!


สนใจติดต่อ โทร.089-783-9197,  026644360 หรือ ที่ รพ.แม่ฟ้าหลวง (คุณน้อย) 38/11-13 อาคารอโศกเพลส ถนนอโศก สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

บทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
http://www.mfu.ac.th/school/anti-aging/article.html
โรคขนคุดหรือผื่นผิวหนังเรื้อรังที่แขน(keratosis pilaris)

 โรคสะเก็ดเงิน(Psoriasis) หายขาดได้ด้วยตนเอง

กำจัดขนด้วยเจ็นเทิลแย็ก

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554


Successful treatment of keratosis pilaris
Dr.Jaratsak Ruangpeerakul , Mae Fah Luang University(Bkk)
Dr.Burin Suraaroonsamrit, Somdet Chaopraya Institute of Psychiatry
Keratosis pilaris is an extremely common , inherited skin disorder that is characterized by multiple follicular papules ,which occurs,mostly as excess keratin accumulating around hair follicles.It’s most commonly found on upper arms,thighs,face,back and buttock.It is estimated that  keratosis pilaris affecting 40% of population(1).Keratosis pilaris is mostly a major nuisance to life because the disease itself is difficult to be treated(2),resulting psychological distress to affected patient. Urea ,lactic acid,topical retinoids,corticosteroids and other treatments have been used with unsatisfied results(3). So, new and effective therapeutic options with long lasting effects are desired. Based on clinical experience gained in the last 4 years, we believed that hair obstruction is a major cause of disease . If we can get rid of  hair in the follicular area, keratosis pilaris should be improved . Our team would like to share with you an effective,well-accepted,well-tolerated treatment by once a month. This protocol has been followed in my practice for over 2 years by over 100 patients with keratosis pilaris.  Our patient  were treated using the neodymium:yttrium-aluminium-garnet (Nd:YAG) laser (1064nm) in our department.  The laser dosage was 20-40 J/cm2, with 10-18 mm in diameter spot and pulse wide of 3-40 ms. Dynamic cooling device set was used 30-20 times and 10-15 times pre- and post-pulse respectively.  The results are satisfying.
                  


  

After  1 treatment x50

.http://www.mfu.ac.th/school/anti-aging/
..http://www.mfu.ac.th/school/anti-aging/admin/uploadCMS/news/DdMon45044.pdf.
Jaratsak Ruangpeerakul 
Dermatologist


สนใจติดต่อ โทร.089-783-9197,083-785-6941 หรือ ที่ รพ.แม่ฟ้าหลวง (คุณน้อย) 38/11-13 อาคารอโศกเพลส ถนนอโศก สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. รพ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ (อโศก)
โทร. 02-6644360, 02-6642295(More contact:JARATSAK@GMAIL.COM)


 Reference;
*1. Poskitt L, Wilkinson JD. Natural history of keratosis pilaris. Br J Dermatol. Jun 1994;130(6):711-3.
*2.Natural history of keratosis pilaris. Br J Dermatol. Jun 1994;130(6):711-3.
*3. Andreas WG,Treating keratosis pilaris . J Am Acad Dermatol.Vol. 47, Issue     3:457